รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ภายใต้การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พื้นที่ต้นแบบที่จังหวัดสุโขทัย
วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2566) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.พรรณสิริ กุลนาถสิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย เขต 4 นางชื่นชีวัน ลิมป์ธีระกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 17 และคณะ ลงพื้นที่เพื่อติดตามและตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
ภายใต้การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองพื้นที่ต้นแบบจังหวัดสุโขทัย ระยะที่ 1 โดยมี นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ จากนั้นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการฯ ทั้งสิ้น 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 วัดศรีสุวรรณาราม ม. 2 ตำบลศรีคีรีมาศ อำเภอคีรีมาศ จุดที่ 2 ที่ทำการกองทุนหมู่บ้านคลองปลายนา ม.10 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองสุโขทัย และจุดที่ 3 ที่ทำการกองทุนหมู่บ้านชุมแสง ม.10 ตำบลเกาะตาเลี้ยง อำเภอศรีสำโรง
ทั้งนี้ คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้พิจารณาและอนุมัติโครงการ ผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง วงเงิน 50 ล้านบาท โดยได้นำร่องโครงการในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย และมีกองทุนหมู่บ้านเข้าร่วมโครงการ จำนวน 159 กองทุน ครัวเรือนสมาชิก 1,000 ครัวเรือนๆ ละ 50,000 บาท ผลการดำเนินงานนำร่อง 1 ปี ที่ผ่านมา มีผลผลิต (ลูกโค) จำนวน 1,860 ตัว คิดเป็นร้อยละ 93 จากแม่พันธุ์โค 2,000 ตัว คิดเป็นมูลค่า 37 ล้านบาท ส่งผลให้สมาชิกของกองทุนหมู่บ้าน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก้ไขปัญหาหนี้สิน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีแนวนโยบาย จากการเจรจากับภาคเอกชน ด้านการเกษตรและปศุสัตว์ที่มีการลงทุนไปทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะประเทศจีนและประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่มีความต้องการเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก ประกอบกับประเทศไทยมีพื้นที่หลายแห่งประสบปัญหาแห้งแล้ง ไม่สามารถทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี หากมีการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโค จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแก้ไขปัญหาความยากจน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่ดี เพิ่มช่องทางการตลาดสำหรับครัวเรือนของสมาชิกกองทุน และเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วย
